วันนี้ที่บริษัทฯ มีการจัดปฐมนิเทศขึ้น หนิงเป็นผู้นึงที่เข้าไปอยู่ในพิธีของวันนี้ด้วย ได้ยินเจ้าของสปา (คือโก้ชุ้น หรือคุณธัชพล เทพบุตร และคุณหมออ้อยหรือคุณหมอนงธนัญ เทพบุตร) มาพูดถึงความคิดที่มาเปิดสปาว่า ส่วนนึงอยากจะให้รู้จักวัฒนธรรมไทยกันมากขึ้น เพราะเป็นสิ่งที่พวกเราคนไทยควรจะภูมิใจกับสิ่งที่เรามีมานานแล้ว
คุณหมออ้อยได้ยกตัวอย่างถึง go green ที่ปัจจุบันกำลังเป็นที่นิยมกันในหลาย ๆ ประเทศ เมื่อพบว่าโลกร้อนขึ้นนั้น แต่อันที่จริงคนไทยได้ปฏิบัติกันมานานแล้ว ซึ่งหนิงเองก็เพิ่งทราบข้อมูลบางอย่างในวันนี้เหมือนกันค่ะ คุณหมออ้อยบอกกับพวกเราว่า
- สมัยก่อนคนไทยจะมีการบวชต้นไม้ (คือการเอาผ้าจีวรไปผูกรอบต้นไม้ไว้ เพื่อบอกว่าต้นนี้พระได้ขอบิณฑบาตรไว้แล้วห้ามตัด)
- มีการปลูกต้นไม้ไว้รอบ ๆ บ้านซึ่งเป็นไม้ดอกบ้าง ไม้หอมบ้าง ส่วนไม้แดดก็จะได้แก่ พวกผลไม้ต่าง ๆ ตามฤดูกาลนั่นเอง
รวมไปถึงการแพทย์แผนไทย ที่กำลังจะโดนต่างชาติเอาไปจดลิขสิทธิ์ ดังนั้นพี่ทั้งสองจึงคิดว่า อยากจะเปิดกิจการอะไรขึ้นมาสักอย่างเพื่อเป็นการตอบแทนแผ่นดินไทย และทำให้ชาวโลกได้รู้จักกับความเป็นไทยกันมากขึ้น ซึ่งหนิงเองก็ทึ่งจริง ๆ กับความคิดของพี่เขา เพราะเท่าที่เข้ามาในบริษัท สุโข สปา เนี่ย หนิงก็ได้เปลี่ยนชีวิตตัวเองไปหลาย ๆ อย่างเหมือนกัน และรู้สึกภาคภูมิใจกับความเป็นไทยในตัวเองม๊าก มาก เพราะคงไม่สามารถหาได้จากที่อื่นจริง ๆ หนิงจะขอเล่าคร่าว ๆ นะคะว่าตอนนี้ที่ สุโข สปา นั่น พี่ ๆ เขาได้สร้างอะไรขึ้นมาเพื่อให้ต่างชาติได้สัมผัสกับวัฒนธรรมไทย หรือความเป็นไทย ดังนี้
- เมื่อลูกค้าเดินเข้ามา จะมีการต้อนรับด้วยการไหว้แบบไทยแท้ ๆ
- มีการตีฆ้องร้องป่าว เพื่อเป็นการบอกว่ามีลูกค้ามาเยือน
- มีการไหว้พระพิฆเนตร เพื่อศักการพระพิฆเนตร
- มีการลอยกระทง เมื่อลูกค้าเริ่มเดินเข้ามายังทางขึ้นสุโข สปา ซึ่งเป็นประเพณีของไทย เพื่อขอขมาพระแม่คงคา
- ปิดทองที่ประตูทางเข้า เพื่อเป็นสิริมงคล และแสดงว่าได้เข้ามาเยี่ยมเยียน สุโข สปา แล้ว
- บริเวณต้อนรับ ก็จะมีการแต่งตกแบบไทย ๆ หลายอยาง ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มีการภาพวาดจิตรกรรมฝาผนัง ซึ่งเป็นเรื่องของวรรณกรรมต่าง ๆ ของไทย เช่น ฤาษีดัดตน, เรื่องราวต่าง ๆ ที่อยู่ในไตรภูมิพระร่วง
- มีการแต่งชุดแบบไทย ๆ เช่น การนุ่งโจงกระเบน ซึ่งที่นี่เขานุ่งจริง ๆ ไม่ได้ตัดแบบสำเร็จรูปเลยค่ะ
- มีการพูดโดยใช้หางเสียงว่า “เจ้าค่ะ” , “ขอรับ”
- มีการขายอาหารแบบไทย ๆ ไม่ได้เน้นอาหารต่างชาติเลย โดยเฉพาะการใช้สมุนไพรไทยมาเป็นอาหาร เพราะเขามีการปลูกสวนสมุนไพรไปให้ลูกค้าเดินเก็บกันเองด้วยนะคะ
จริง ๆ แล้ว ยังมีอีกหลายอย่างเลยค่ะ แต่คงเล่าได้ไม่หมดในครั้งนี้แน่ เอาเป็นว่าหนิงจะค่อย ๆ ทยอยมาเล่าเรื่อย ๆ ดีกว่านะคะ สัญญาค่ะ
พอได้ฟังแล้วรู้สึก ว่า สำนึกรักบ้านเกิดจะจุติขึ้นมาทันควันเลยค่ะ
เรามีของดี แต่มักจะไม่เห็นคุณค่าของมัน จะเห็นค่าของมันอีกทีก็เสียมันไป
แล้ว
ตอนนี้โลกเรากำลังจะแย่ งั้นเรามาเป็นสองมือน้อยๆช่วยกันรักษาโลกร้อน
นะคะ
เีขียน blog ได้ดีมากๆเลยครับ
จะคอยติดตามผลงานน่ะครับ …….
ภาคภูมิใจกับความเป็นไทย ด้วยคนนะครับ
aninta2008@windowslive.com ตอบเรื่องกล้องด้วยค่ะ