เมื่อวานตื่นมาทำภาระกิจต่าง ๆ ตามปกติ  และหนึ่งในตารางก็จะต้องไปตรวจค่าเลือดที่ รพ.กรุงเทพภูเก็ตด้วยหลังจากทานอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อย

ครั้งนี้ก็เหมือนเดิม  หนิงไม่ได้นั่งรอผลอยู่ที่ รพ. เพราะคิดว่าคงใช้เวลา  เลยออกมาดูสปาที่เก่า  เพราะว่าพี่ชายกับคุณแม่โทรมาบอกว่าโดนทุบกระจก  คิดว่าน่าจะมีคนเข้าไปขโมยของ  และก็เป็นจริง  ก๊อกน้ำหายเกลี้ยง  ส่วนแอร์ก็ถูกแกะออกมาแล้วเอาชิ้นส่วนด้านในไป  ตอนนี้ก็ยังเหลือแต่ปั๊มน้ำ  กับเครื่องทำน้ำอุ่นบางห้อง  ซึ่งบางห้องหนิงก็ไม่แน่ใจว่าถูกถอดออกไปตั้งแต่ต้นหรือเปล่าอยู่แล้วหรือเปล่า  เพราะเดิมทางบริษัทฯ ที่เช่าเขาก็มีการถอดอุปกรณ์ไปบ้าง  ดูไปก็ไม่สามารถทำอะไรได้เลย  นอกจากเข้าไปล๊อคประตู  แต่เขาก็สามารถเปิดได้อยู่ดี

จากนั้น  หนิงก็ออกมาสำรวจกิจการที่ Central ตามปกติ (พอดีมาเดินบ่อยจนเพื่อน ๆ แซวอ่ะ)  และก็ตัดสินใจซื้อตั๋วหนังเรื่อง Up in the air ซึ่งขณะที่ดูหนัง  หนิงกำมือถืออยู่ตลอด  เพราะรู้อยู่แล้วว่าทาง รพ. จะต้องโทรมาแจ้งในช่วงที่หนังกำลังฉายอยู่อย่างแน่นอน  และก็เป็นจริง  เพราะสรรเสริญจบไปไม่นาน  หนังยังไม่ทันเริ่ม  โทรศัพท์ก็สั่นขึ้น  หนิงเห็นเบอร์ 1719 ซึ่งเป็นของ รพ. กรุงเทพ แน่นอน  หนิงรีบรับสายทันที

คุณพยาบาลคนที่เจาะเลือดให้หนิงรายงานว่า

ค่า B HCG คุณอยู่ที่ 5 นะคะ

ยังไม่ทันวางสายดี  น้ำตาหนิงก็ตกออกมาเป็นทาง  คุณสามีก็กำมือไว้แน่น  หนิงร้องไห้อยู่พักใหญ่  จนแฟนถามว่า  “ไหวไห๊ม”  อยากออกไปข้างนอกไห๊ม  แต่หนิงรู้ดีว่า  อยู่ในโรงหนังนั่นแหละดีกว่า  เพราะไม่งั้นหนิงก็ไม่มีสิ่งเบี่ยงเบน  และน่าจะยิ่งหนักกว่าเดิม  ดีนะที่เนื้อเรื่องของหนังทำให้เราต้องสนใจและทำให้เราลืมอะไรในจังหวะนั้นได้พอสมควร  พอหนังจบก็ยังไม่วายน้ำตาก็ไหลออกมาอีก  ออกมานั่งรอเพื่อน ๆ อยู่ก็ยังร้องไห้ไม่หยุด  แต่น้ำตามันช่วยได้จริง ๆ นะคะ  เพราะหลังจากที่ร้องไห้ไปพอควร  ขณะที่เราเจอเพื่อน ๆ จิตใจเราได้คลายไปเยอะแล้ว  หนิงก็ไม่ได้แสดงอะไรออกมาที่ทำให้คนอื่นผิดสังเกตุเลย

จนกระทั่งเช้าวันนี้  หนิงคิดว่าหนิงสามารถพูดคุยกับคนอื่นได้ดีขึ้น  จากเมื่อวานรู้ตัวเลยค่ะว่า  คงคุยกับใครไม่ได้ต้องร้องไห้แน่ ๆ แต่วันนี้หนิงได้คุยกับเพื่อนไปแล้ว 2 คน  ดีนะที่เขาไม่แสดงความเศร้ากับเรามากนัก  ก็เลยคุยได้ไม่มีอะไร

ยังไงก็ขอขอบคุณเพื่อน ๆ ทุกคนที่ให้กำลังใจ  หนิงยังไม่ท้อนะคะ  คิดว่ายังมีครั้งหน้าอีกแน่นอนค่ะ  ตอนนี้ก็คงต้องกลับไปฝึกโยคะทำตัวให้แข็งแรงเพื่อเตรียมตัวใหม่  คงอีก 2-3 เดือนข้างหน้านี่แหละค่ะ