อีกครั้งกับการจัดโยคะการกุศล ครั้งนี้ได้ร่วมกับทาง มูลนิธิคริสเตียนเมดิคอล ของเซเว่นธ์เดย์แอดเวนติสท์ (โรงพยาบาลมิชชั่นภูเก็ต) ซึ่งครั้งนี้ เป้าหมาย คือ ต้องการซื้อเก้าอี้วีลแชร์ ให้กับผู้ป่วยที่ไม่มีทุนทรัพย์ ที่ชุมชนเกาะหมาก ที่เกาะปันหยี จังหวัดพังงา

โยคะครูหนิง, โยคะการกุศล, โยคะภูเก็ต, โรงพยาบาลมิชชั่น, yogaphuket, yoga, healthyningyoga, healthyning, kru ning,

หลังจากที่คุณกระต่ายได้คุยเบื้องต้นว่าจะเชิญให้ไปร่วมจัดโยคะการกุศลกัน หนิงแอบดีใจเพราะอย่างน้อยเราก็เป็นผู้หนึ่งที่ได้ร่วมสร้างกุศล เป็นหนึ่งในสะพานบุญ และเขาคงเห็นความสามารถเราจริง ๆ เขาถึงชวน อิอิ (งานเข้าข้างตัวเองก็มีบ้างค่ะ) หลังจากกำหนดวันกันเรียบร้อย ถึงได้ถามไปว่า ที่จัดครั้งนี้ต้องการนำเงินไปทำอะไร เพราะตอนแรกคิดว่าหาเงินบริจาคเพื่อเข้ามูลนิธิเฉย ๆ ปรากฎว่า เขาได้สำรวจเรียบร้อยแล้วว่า ทางชุมชนเกาะหมาก มีผู้ป่วยที่ต้องใช้วีลแชร์ประมาณ 10 ท่าน จึงได้ตั้งไว้สำหรับการจัดงานครั้งนี้คือ การหาวีลแชร์ 10 ตัว ซึ่งมีค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น 35,000 บาท

สิ่งที่หนิงต้องมานั่งคิดต่อยอดก็คือ

แล้วเราจะสอนอะไรละ

จะสอนซีรี่ส์เดิมเมื่อครั้งก่อนก็คงไม่ใช่มั่ง เพราะหลายคนได้เรียนไปแล้ว ยิ่งนักเรียนเราอาจจะไม่พบสิ่งแปลกใหม่อะไรเลย ความคิดเลยโลดแล่นไปอีก งั้นทำให้ผู้ที่เข้าฝึกในวันนั้นได้รู้สึกถึงความรู้สึกของคนที่ต้องมานั่งวีลแชร์กันดีกว่า แต่นั่นแหละ ความยากเกิดขึ้นแน่ ๆ แล้วความรู้สึกของคนนั่งวีลแชร์ คือ อะไรละ คิดไปคิดมา เขาเหล่านั้นน่าจะต้องรู้สึกอึดอัด รู้สึกต้องใช้ความพยายาม ต้องมีความมุ่งมั่น อดทน และเชื่อมั่นกับตัวเองมาก ๆ ถึงจะทำให้พวกเขาเหล่านั่นดำเนินชีวิตอยู่ให้ได้ ว่าแล้วก็คิดออกทันที ซีรี่ส์ที่ต้องใช้ก็ต้องเป็น Arm Balance อย่างแน่นอน ว่าแล้วก็งานแกะซีรี่ส์ก็ตามมา อิอิ

หลังจากได้ซีรี่ส์เรียบร้อยแล้ว ทำไงดี มันไม่เข้าหัวเลย เพราะคงต้องฝึกสอนจริง ๆ ถึงจะจำได้อ่ะ และจะได้หาข้อผิดพลาดของตัวเองด้วย ว่าแล้วไม่มีที่ไหนแล้วละ คงต้องขอฝึกสอนกับนักเรียนที่สตูละกันนะ จัดไปครั้งแรกบอกเลยว่า งานสอนไม่ผ่านจริง ๆ ให้คะแนนตัวเองสัก 4 เต็ม 10 ทำให้ต้องมีครั้งที่สอง สาม สี่ ตามมาเป็นลำดับ ที่ไม่อยากสอนซีรี่ส์นี้ในสตูเพราะ เป็นซีรี่ส์ที่ยาก คงต้องเป็นคนที่มีประสบการณ์การฝึกโยคะมาสักระยะถึงจำพอทำได้ ถ้าเอาไปสอนจริง ๆ รับรองนักเรียนใหม่ ๆ หายเรียบแน่ ๆ จนใกล้ถึงวันงานก็ยังคิดว่าตัวเองยังสอนได้ไม่ค่อยดีเลย นอกเหนือจากนี้ยังมีเรื่องที่ต้องพูดธีมทั้งก่อนและหลังฝึกอีก ฝึกมาเกือบตลอด ครั้งแรกที่ฝึกพูดธีมบอกเลยว่า “ร้องไห้” เอง ก็คิดว่า ไม่ได้นะ เราไม่ควรร้องไห้ตอนที่พูดนะ เพราะมันดูไม่ดี เราต้องเข้มแข็ง พอซ้อมครั้งหลัง ๆ ก็ไม่ร้องอีกเลย และคิดว่าพูดได้ดีขึ้น

ก่อนถึงวันหนิงได้แค่ฝึกเรื่องของการสอนซีรี่ส์ ซึ่งแน่นอนผู้ฝึกส่วนใหญ่มักจะให้คอมเม้นท์ว่า อย่าเอาซีรี่ส์นี้เลยมันยากไป แต่หนิงคิดไม่ออกจริง ๆ ว่าจะเอาซีรี่ส์ง่าย ๆ แบบไหนที่จะสื่อความรู้สึกนั้นได้ ดังนั้น ยังคงแน่วแน่กับสิ่งที่ตัวเองจะสอนว่าจะเอาซีรี่ส์นี่แหละ เพราะถ้าเราพูดธีมได้ดี ผู้ฝึกคงจะเข้าใจว่า สิ่งที่เราให้ฝึกวันนี้ ไม่ได้ฝึกเพื่อที่จะฝึกให้ได้ แต่เราฝึกเพื่อที่จะให้รับรู้ถึงความรู้สึกของคนที่ต้องไปนั่งวีลแชร์ต่างหาก

ว่าแล้วพอถึงวันงาน เป็นไปตามคาด คริคริ แค่เริ่มต้นพอเริ่มเข้าธีมเท่านั้นแหละ “น้ำตาก็เริ่มมา เสียงเริ่มเครือ ๆ” แต่พอเริ่มนำเข้าสู่ลมหายใจ ความสงบ นิ่ง ของตัวเองก็เริ่มกลับมา สอนไปได้สักพักใหญ่ ๆ รับรู้ได้ถึงความเหนื่อย ล้า และต้องพยายามของผู้ฝึก จึงตัดสินใจลดท่าลงไปเล็กน้อย พาไปได้จนจบซีรี่ส์ แล้วกลับมาพูดธีมอีกครั้งหลังจากที่ผู้ฝึกได้นอนผ่อนคลายกันไปแล้ว ไม่วาย เมื่อต้องพูดถึงบุคคลที่ต้องนั่งวีลแชร์ หนิงเริ่มอินกับมันอีกแล้ว คราวนี้หนักกว่าช่วงต้น เพราะน้ำตามันไกลออกมาเป็นทาง หยุดไม่ได้แล้วอ่ะ ต้องพูดไปทั้งน้ำตา และมองเห็นสผู้ฝึกบางคนก็แอบเช็ดน้ำตาเหมือนกัน เอาละว้างานนี้ ไม่ได้ร้องไห้คนเดียวละ ปล่อย ๆ มันไปเลยละกัน เต็มที่ งานตอกย้ำมาอีกระลอก สุดท้ายก็ “ปิด” จบจนได้ อิอิ

งานครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมฝึก 65 คน ยอดบริจาคอยู่ที่ 37,567.75 บาท ได้ยอดมากกว่าที่ตั้งไว้ ซึ่งเท่าที่ทราบอาจจะยังมีเพิ่มอีก แต่ไม่ต้องกังวลนะคะ เพราะยอดที่เกินยังไงเราก็ยังได้ช่วยเหลือกับผู้อื่นอีกอย่างแน่นอนค่ะ