ไปเรียนคลาสครูที่ Yoga Space ครั้งนี้ ทำให้ได้รู้จักกับคำว่า “ครูโยคะที่ดี” ได้ชัดขึ้นมาก ๆ เมื่อก่อนก็รู้จักแค่คำว่า “ครูโยคะ” ซึ่งความสามารถของแต่ละคนก็แตกต่างกันไป ก็รับรู้แค่นั้น ไม่ได้รู้ว่าความสำคัญของคนที่เป็น “ครู” จะมีผลกับการสอนกับการฝึกของนักเรียนมากมายอะไร แต่ครั้งนี้มันไม่ใช่เลย …..

ครูโยคะ, โยคะภูเก็ต, โยคะครูหนิง, Yoga phuket, yoga

ครูโยคะ, โยคะภูเก็ต, โยคะครูหนิง, Yoga phuket, yoga

หนิงสอนโยคะมาไม่ต่ำกว่า 5 ปีแบบที่เปิดสตูโยคะเต็มรูปแบบ และไม่ต่ำกว่า 10 ปี ถัานับตั้งแต่การสอนแบบงานเสริม บอกเลยว่า

“สอนด้วยเสียงที่สั่นมาโดยตลอด”

ถามว่ารู้ตัวไม๊ ก็รู้นะ แต่ก็พยายามแก้ปัญหาทั้งเข้าคอร์สอบรมการพูดโน้น นี่ นั่น มาเรื่อย ๆ จนสุดท้ายไปหาหมอ ถึงขั้นหมอบอกให้ไปฉีดโบท๊อกซ์ที่เส้นเสียงเพราะเส้นเสียงตึงมาก แต่ต้องฉีดทุก 3 เดือนนะ และต้องขึ้นไปฉีดที่กรุงเทพด้วยอ่ะ เลยมองว่างั้นปล่อยไปแบบนี้แหละ ก็ยังไม่เคยมีนักเรียนคนไหนพูดว่าเรียนไม่ได้นี่นากับเสียงที่พูดออกไป อิอิ (อาจเพราะไม่เคยพูดให้ได้ยิน 55555) แต่แล้วเมื่อต้องขึ้นไปเรียนครั้งนี้ ครูทำให้เห็นว่า การที่เราเสียงสั่นมันมีผลกับนักเรียนในระดับนึงเลยทีเดียว ครูก็เลยต้องจัดการปัญหาที่เกิดขึ้นให้ และมันอัศจรรย์มาก เพราะครูติดต่อครูสอนร้องเพลงมาแก้ปัญหาให้โดยตรง มันไม่น่าเชื่อมาก ๆ ว่า ตอนนี้เสียงนิ่งขึ้น จนเรียกได้ว่าแทบจะหายสนิท ซึ่งมันอยู่ที่การควบคุมของเราจริง ๆ ถ้าเรารู้วิธีการควบคุม

นอกเหนือจากเรื่องเสียงแล้ว สิ่งที่จะเรียกว่า “ครูโยคะที่ดี” ได้ คุณต้องสามารถสร้าง Inspiration และ Connection กับนักเรียนได้ ตอนแรกก็คิดว่า อืม…มันจะอะไรขนาดนั้น ทำได้ก็ดีอ่ะนะ คงแค่พูดคุยหลังคลาสหรือเอารูปอะไรให้ดูเพื่อสร้างแรงบันดาลใจไม่งั้นก็ฝึกท่ายากให้ดูหรือเปล่า หรือต้องไปทานข้าวกับนักเรียนงั้นเหรอ มันไม่ใช่เลย มันคือสิ่งที่ต้องเกิดขึ้นในคลาส เพราะการสอนแบบ “Teach a Class” กับ “Teach this Class” มันต่างกัน อธิบายผ่านบล็อคคงจะลำบากมาก บอกได้แค่ว่า วันนี้เข้าใจจริง ๆ และเข้าใจขึ้นมาก ๆ ได้แค่หวังว่า สักวันหนึ่ง สิ่งที่เราพยายามไขว้คว้าหาความรู้ และพยายามเรียนรู้ทุกอย่างเพื่อเอามาให้กับนักเรียนของเรา มันจะมีค่าและนักเรียนคงจะสัมผัสได้สักวัน

เข้าใจนะคะว่าบางครั้ง หากเราฝึกโดยที่มองว่าโยคะเป็นแค่การออกกำลังกาย ฟัง ๆ ทำ ๆ ไป ใคร ๆ สอนก็คงเหมือนกัน แต่จริง ๆ แล้ว มันมีมากมายกว่านั้นอีกเยอะมาก ที่คนเป็น “ครู” จะต้องเข้าใจ และพยายามถ่ายทอดออกมาให้กับนักเรียน ไม่ใช่เฉพาะแค่ความรู้เฉพาะเรื่องของสรีระ หรืออาสนะเท่านั้น แต่คุณควรจะต้องเข้าใจถึงคำว่า “จิตวิญญาณ” ของคนเป็นครูให้ได้ ว่าต้องเป็นอย่างไร นั่นต่างหากถึงจะเรียกได้ว่า “คุณเป็นครูโยคะที่ดี” จริง ๆ

มาถึงตรงนี้ ยังไม่กล้าบอกนะคะ ว่าตัวเองเป็น “ครูโยคะที่ดี” หรือยัง เพราะคนที่จะบอกคำนี่คงไม่ใช่ตัวเราเอง แต่ต้องมาจากนักเรียน และครูที่สอนเรามาต่างหากว่าเขาเห็นว่าเราเป็นครูโยคะที่ดีหรือยัง…

คำถามบางคำถามมันก็ไม่ได้ต้องการคำตอบของผู้ที่จะตอบหรอกค่ะ เพราะบางคนยังไม่เข้าใจตัวเอง ยังไม่ยอมรับตัวเองเลย แล้วคุณคิดว่าคุณจะตอบคำถามแบบที่คุณเป็นได้จริงหรือ หรือตอบแค่เพี่อให้ตัวเองดูดี…แค่นั้น นี่เป็นสิ่งที่อยู่ในมรรค 8 เลยนะ ถ้าเข้าใจจริงก็คงเข้าใจกับสิ่งที่บอกนะคะ…