เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมา ตั้งใจไปหานักกายภาพเพื่อเช็คร่างกายตัวเองว่ามันโอเคมั้ย มีอะไรบิดเบี้ยวบ้าง เพราะรู้สึกว่าลำตัวสองข้างไม่ค่อยเท่ากันเท่าไหร่…

โยคะครูหนิง, โยคะภูเก็ต, ครูสอนโยคะ, โยคะเขารัง, สตูโยคะ

ไปถึงบอกนักกายภาพเรียบร้อยว่า จุดประสงค์ของการมาครั้งนี้เป็นอย่างไรบ้าง พี่ไม่มีอาการเจ็บปวดใดๆ แต่รู้สึกว่าสองข้างมันไม่ค่อยสมดุลเท่าไหร่ “น้องหนิง” นักกายภาพ (บังเอิญชื่อเหมือนกัน) ก็เริ่มลงมือเทส ทุกอย่างก็ดูดีนะเท่ากันหมดเลย พอให้ก้มลงไปเท่านั้นแหละ

อ๋อ พี่ค่ะ กล้ามเนื้อสองข้างพี่ไม่เท่ากันนะคะ

เห็นมั้ยว่า ถ้าเราฟังเสียงร่างกายเราจริงๆ เราก็จะได้ยินว่ามันฟ้อง อิอิ

จากนั้นก็เทสต่อ อุ๊ย! คอพี่ยื่นออกมานะคะ น่าจะนอนหมอนสูงเกินไปค่ะ แล้วก็บอกท่าบริหารมาให้บริหารต่อ น้องหนิงน่ารักมากค่ะ เราพูดคุยกันอยู่นาน เพราะหนิงเองก็มีขอสงสัยอะไรบางอย่างก็อยากได้ความมั่นใจว่า ที่เราเข้าใจอยู่มันถูกต้องมั้ย

จากการไปหานักกายภาพในครั้งนี้ ยิ่งทำให้หนิงมั่นใจว่า เราควรดูแลร่างกายของเราให้เข้าสู่สมดุลจริงๆ ในทุกๆ ด้าน เพราะเรื่องบางเรื่องมันเป็นเรื่องที่เราคิดไม่ถึงแต่มันก็สร้างปัญหากับเราได้ เช่น สาเหตุของกล้ามเนื้อหลังที่มันไม่เท่ากัน น่าจะเป็นเพราะหนิงเองเป็นครูสอนโยคะที่เวลาเราสาธิตให้นักเรียนดูมักจะแสดงให้ดูแค่ข้างเดียว พอไปอีกข้างเราก็ขยับเพื่อไปดูนักเรียนว่าทำถูกต้องหรือเปล่า และเกิดจากการฝึกฝนบางท่า ที่เราน่าจะใช้แค่ข้างเดียวมาโดยตลอด คือ การขัดสมาธิเพขร เพราะถ้าฝึกในรูปแบบ Ashtanga Yoga เวลาที่เราขัดสมาธิเพชร เราจะต้องขัดเอาขาขวาขึ้นก่อนเสมอ ซึ่งหนิงเองก็เป็นนักเรียนที่ไม่เคยแหวกแนวด้วยสิ ฝึกแบบนั้นมาตลอดสิบปี มันเลยส่งผลให้การใช้กล้ามเนื้อไม่สมดุลไงจ๊ะ

หลังจากนี้เราคงต้องเปลี่ยนเอาซ้ายมาทับขวาบ้างแล้วสินะ อิอิ เพื่อให้สมดุลกัน เปลี่ยนความคิด เปลี่ยนพฤติกรรมกันไป

สิ่งนึงที่หนิงอยากบอกทุกคนคือ จริงๆ แล้วการที่เราได้ไปเช็คร่างกาย นอกเหนือจากไปตรวจเช็คค่าเลือด ความดัน ต่างๆ นาๆ แล้ว หนิงอยากแนะนำให้เราไปเช็คโครงสร้างร่างกายด้วยค่ะ เราจะได้สมดุลในทุกๆ ด้าน การใช้ชีวิตก็เช่นกันนะคะ ทำงาน ออกกำลัง พักผ่อน อยู่กับครอบครัว สร้างให้สมดุลแล้วชีวิตคุณจะมีความสุขจนมีแต่คนอิจฉาเลยละ อิอิ